ดีปลี
ชื่อวิทยาศาสตร์ Piper retrofractum Vahl.
ดีปลี
ชื่อวิทยาศาสตร์ Piper retrofractum Vahl.
วงศ์ Piperaceae
ชื่อพื้นเมือง
กลาง ประดงข้อ ปานนุ, ใต้ ดีปลีเชือก, บางแห่งเรียกว่า พิษพญาไฟ
ลักษณะ
ไม้เถา เถากลม เป็นปล้องต่อกัน ตรงข้อต่อจะป่อง
และมีรากสั้นๆ รอบข้อ เพื่อไว้เกาะค้าง หรือต้นไม้อื่น
เถาแตกกิ่งก้าน ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกสลับกัน
รูปรีแกมขอบขนาน ปลายใบเรียวแหลม โคนใบออกไม่เท่ากัน
ผิวใบด้านบนค่อนข้างมัน ดอก ช่อ ออกตรงข้ามในบริเวณปลายเถา
ลักษณะดอกเป็นแท่ง รูปทรงกระบอก ดอกย่อยไม่มีก้านดอก
ผล ขนาดเล็กกลมฝักอยู่บนแกนช่อดอก สีเขียวเข้ม
แก่จัดจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลและสีแดงส้ม ผลยาว 2.5 - 5 ซ.ม.
ส่วนที่ใช้
ผลที่เริ่มเปลี่ยนจากเขียวเป็นสีน้ำตาล
สารที่สำคัญ
น้ำมันหอมระเหย มีประมาณ 1% ประกอบด้วย
terpinolene, caryophyllene, p-cymene,
thujene, dihydrocarveol ฯลฯ
บำบัดอาการ
ขับลม
ขนาดและวิธีการใช้
ใช้ผลแก่จัด 8 - 10 ผล ต้มกับน้ำ ดื่มแต่น้ำ 3 เวลาหลังอาหาร
ข้อควรระวัง
หญิงมีครรภ์ควรระมัดระวังการใช้ดีปลี
เพราะจากผลการทดลองแต่ยังไม่ยืนยันเป็นที่แน่นอน
พบว่า อาจทำให้แท้ง
คุมกำเนิดได้ เมื่อใช้ร่วมกับสมุนไพรอื่น ๆ
ชื่อพื้นเมือง
กลาง ประดงข้อ ปานนุ, ใต้ ดีปลีเชือก, บางแห่งเรียกว่า พิษพญาไฟ
ลักษณะ
ไม้เถา เถากลม เป็นปล้องต่อกัน ตรงข้อต่อจะป่อง
และมีรากสั้นๆ รอบข้อ เพื่อไว้เกาะค้าง หรือต้นไม้อื่น
เถาแตกกิ่งก้าน ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกสลับกัน
รูปรีแกมขอบขนาน ปลายใบเรียวแหลม โคนใบออกไม่เท่ากัน
ผิวใบด้านบนค่อนข้างมัน ดอก ช่อ ออกตรงข้ามในบริเวณปลายเถา
ลักษณะดอกเป็นแท่ง รูปทรงกระบอก ดอกย่อยไม่มีก้านดอก
ผล ขนาดเล็กกลมฝักอยู่บนแกนช่อดอก สีเขียวเข้ม
แก่จัดจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลและสีแดงส้ม ผลยาว 2.5 - 5 ซ.ม.
ส่วนที่ใช้
ผลที่เริ่มเปลี่ยนจากเขียวเป็นสีน้ำตาล
สารที่สำคัญ
น้ำมันหอมระเหย มีประมาณ 1% ประกอบด้วย
terpinolene, caryophyllene, p-cymene,
thujene, dihydrocarveol ฯลฯ
บำบัดอาการ
ขับลม
ขนาดและวิธีการใช้
ใช้ผลแก่จัด 8 - 10 ผล ต้มกับน้ำ ดื่มแต่น้ำ 3 เวลาหลังอาหาร
ข้อควรระวัง
หญิงมีครรภ์ควรระมัดระวังการใช้ดีปลี
เพราะจากผลการทดลองแต่ยังไม่ยืนยันเป็นที่แน่นอน
พบว่า อาจทำให้แท้ง
คุมกำเนิดได้ เมื่อใช้ร่วมกับสมุนไพรอื่น ๆ